2 มิถุนายน 2556

ตอบอีเมล...เรื่องพิสูจน์อักษร

ว่างเว้นจากการเขียนบล็อกไปนาน...ให้รู้สึกละอายแก่ใจตัวเองยิ่งนัก
เมษายน - พฤษภาคม...ว่างเปล่า ปล่อยร้าง ห่างหาย และไร้คำสารภาพใดๆ!!!
ด้วยตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาโน่น ผมมีงานส่งเข้ามาให้ทำตลอด
แทบไม่มีเวลาได้ผ่อนพักใดๆ ชีวิตหมกจมอยู่กับการทำงาน ทำงาน ทำงาน และทำงาน
ไม่ใช่ว่าไม่อยากเข้าาอัพเดทบล็อก Open Life นี้นะ ทว่ามันไม่มีพลังจะกลั่นกรองคำออกมา
สภาพร่างกายแสนเหนื่อยล้า สภาพจิตใจก็อ่อนเปลี้ย แถมสภาพอารมณ์ยังตีบตันมึนตึ้บ

๑ สัปดาห์หนึ่งมี ๗ วัน...ผมก็ทำงานทั้งเจ็ดวันมาตลอด ๓ เดือนเต็มๆ
เพราะมีงานหนังสือส่งมาให้ทำ ๓-๔ ที่ 
บางที่ก็เร่ง บางที่ก็เร่งปานกลาง 
แต่ส่วนใหญ่มักจะเร่งด่วน!!!
และแล้วก็พานพบสัจธรรม 
ยามรับงานที่ผู้จ้างต้องการด่วนพิเศษเมื่อใด 
เมื่อนั้นแหละสวรรค์เบี่ยงโลกเบี้ยว
ผมแทบจะกินๆ นอนๆ อยู่หน้าโน้ตบุ๊กเลย
ก็แหม...เขาส่งงานมาแล้วขอสามสี่วันเสร็จ 
ขณะงานอาจมีราวๆ ๒๐๐-๓๐๐ กว่าหน้า 
คละเคล้ากันไป (คิดจากที่จัดหน้าแล้ว)

ได้เวลากักขังตัวเอง เตรียมสมาธิ พลัง และข้าวปลาอาหาร
เพราะเมื่อตกปากรับคำรับงานเสร็จสรรพ ความรับผิดชอบต่องานนั้นๆ ก็ต้องมี...
ต้องทำให้ทัน... หรือพูดง่ายๆ ห้วนๆ คือ "งานต้องเสร็จ" นั่นเอง

ผมก็บ่องตง...บอกตรงๆ ว่า ตอนนี้มีผู้ว่าจ้างที่ส่งงานให้ทำสม่ำเสมออยู่ ๔ บริษัท
เป็นหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คสักสาม และนิตยสารรายเดือนหนึ่ง
ขณะที่ก็มีขาจร หรือสำนักพิมพ์บางแห่งติดต่อมาเพื่อจะส่งงานให้ ซึ่งผมก็ต้องปฏิเสธอย่างสุภาพไป
เพราะงานที่ล้น ไหนจะงานที่ค้างคาราคาซัง อ้าว...ยังมีงานที่เวียนกลับมาอีกรอบ
นี่ถ้าแยกร่างได้คงแยกร่างไปแล้ว กระนั้นในความเป็นจริงมันไม่ใช่....

ช่วง ๓ เดือนที่ห่างหายจากบล็อกนี้ไป เพราะต้องทำงานหนังสือแหละครับ
แต่ ณ ตอนนี้...อยากขออนุญาตนำอีเมลที่ส่งมาหาผมซึ่งได้อ่านบล็อกนี้มาตอบกันดีกว่า
เพราะในบล็อก Open Life ผมเจตนาปิดไม่ให้แสดงความคิดเห็น หรือคอมเม้นต์ใดๆ ได้

เริ่มจาก...ผู้ชายท่านหนึ่งที่เมลมา (ขออภัยรีไรท์ภาษาบ้างนิดๆ)

****
สวัสดีครับ คุณ (ผมไม่ทราบชื่อT_T) เหตุเพราะบังเอิญได้ไปเจอบทความของท่านใน openlife26.blogspot.com ตัวผมเองที่มีความสนใจในการทำงานด้านพิสูจน์อักษรอยู่แล้ว 
จึงได้เข้าไปอ่าน กะจะอ่านแค่ผ่านๆ ตา แต่เอาไปเอามา สนุกแฮะ ^^ 
อันดับแรกต้องขอบอกก่อนเลยว่าท่านเขียนและเรียบเรียงได้สนุก น่าสนใจมากครับ 
สามารถเป็นนักเขียนออกหนังสือเองได้สบายๆ เลย 
....ผมมีความสนใจในการทำงานสำนักพิมพ์จึงใคร่ขอรบกวนขอความกรุณา 
ขอคำปรึกษาเรื่องจิปาถะเกี่ยวกับงานด้านนี้สักหน่อยจะเป็นไปได้ไหมครับ 
อาจจะผ่านทางช่องทางอีเมล์ หรือเฟซบุ๊คก็ได้ครับ ขอบคุณครับ ^^ 

ตอบ : ขอตอบรวมๆ ละกันนะ ว่า...ขอบคุณและขอบใจมากครับสำหรับคำชม
ผมไม่ใช่นักเขียนหรอก แค่คนทำงานหนังสือเบื้องหลังผู้ต่ำต้อยที่รักอิสระและความเป็นธรรม ><
และที่ผมทำบล็อกนี้ขึ้นมานั้นก็หมายบันทึกความคิดเห็น หรือความรู้สึกส่วนตัวที่แบ่งปันกันได้
ส่วนที่อยากปรึกษาก็ลองไล่เป็นหัวข้อๆ มาก็ได้นะ ถ้าผมตอบหรือให้ข้อมูลได้ ผมจะนำมาลงในบล็อกนี้
ด้วยคิดว่า...เผื่ออาจเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆ ได้บ้าง เรามาร่วมแบ่งปันควารู้และประสบการณ์กันดีกว่า

****
มาถึงเมลจากน้องสาวผู้หนึ่งบ้าง

ก่อนอื่นต้องบอกว่ายังเป็นนักเรียนอยู่ค่ะ และชอบอ่านหนังสือ
ตอนนี้อยากรู้ว่าถ้าจะลองพิสูจน์อักษรบ้างต้องทำแบบไหน 
มีที่ไหนที่เปิดรับเด็กมัธยมปลายบ้างคะ 

ขอบคุณสำหรับบล็อกดีๆ และคำแนะนำค่ะ
เด็กมัธยม

ตอบ :  ผมให้ดีใจล้นทวีที่เด็กๆ สมัยนี้ยังสนใจการอ่านหนังสือมากกว่าบ้าคลั่งเทคโนโลยี
ไม่หลงไปกับแสง สี เสียง หรือสังคมโซเชียล เน็ตเวิร์กต่างๆ นานาที่แสนยั่วเย้า
ต่อคำถามของน้อง...พี่อยากแนะนำว่าให้ตั้งใจเรียน และถ้ามีเวลาก็อ่านหนังสือมากๆ ครับ
ชอบแนวไหนก็อ่านไป แต่ถ้ารักที่จะอ่านหนังสือหลายๆ แนว หลายแขนง ก็ดียิ่งขึ้น
ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้ ยิ่งซึมซับ และได้เก็บคลังคำเข้าสู่ความจำ อ่านมากก็สะสมคำมาก
ทั้งได้ศึกษาสำนวนภาษา หรือกลวิธีของงานเขียนในแต่ละประเภทด้วย

เรื่องจะลองทำงานพิสูจน์อักษรนั้น ยังมีรายละเอียดที่ต้องหาประสบการณ์เพิ่มเติมอีกจ้า
ซึ่งน้องยังเรียนอยู่ระดับมัธยมปลายนั้น คงยังไม่มีที่ไหนว่าจ้างหรอกครับ
เพราะงานแบบนี้ไม่ใช่แค่เพียงอ่านเฉยๆ หาคำถูกผิดแล้วจบ
ผู้ปรู๊ฟก็ต้องด่ำดิ่ง ละเอียดลออ และเข้าใจร่วมไปกับเนื้อหางานในแต่ละเล่ม
ไหนจะสัญลักษณ์การตรวจปรู๊ฟที่ต้องใช้ ไหนจะต้องช่วยดูรูปแบบการจัดหน้า
จะต้องตัดคำเช่นไร วรรคตอนแบบไหน หรือทำยังไงให้หนังสือลงยก ฯลฯ
โอ้ย...ยังมีอีกสารพัดปัญหาและสารเพอารมณ์คนที่น้องต้องเผชิญ...

..........

คงเท่านี้ก่อนนะ กระผมต้องขอตัวไปทำงานต่อ...
ยังมีหนังสืออีก ๒ เล่มที่ต้องจัดการ เพราะเลทงานล่าช้ามานานแล้ว...
.