24 มกราคม 2556

ค่าจ้างงานพิสูจน์อักษร Freelance 2

ยามที่พอมีเวลาว่างเว้นจากงานฟรีแลนซ์ (มีบ้างไม่มีบ้าง) จึงต้องกุลีกุจอมาอัพเดทบล็อกสักเล็กน้อย
ยิ่งผมทำบล็อกไว้ 4 บล็อก ย่อมทำให้เกิดความล่าช้าในการเขียนบล็อกเพื่อเพิ่มเนื้อหาล่าสุด
หลายๆ ครั้ง...สมองไม่แล่น อารมณ์ไม่พริ้ว พลันนึกเสกสรรถ้อยคำใดๆ ไม่ออกซะดื้อๆ

มาเข้าเรื่อง ค่าจ้างงานพิสูจน์อักษร Freelance ตอน 2 กันเถิดเอย...
หน้าที่ของ Proofreader หลักๆ คือ ตรวจสอบดูความถูกต้องของคำถูกคำผิด เรื่องของสำนวนภาษา
และรูปแบบการจัดหน้า ว่าหนังสือเล่มนี้มีสไตล์อย่างไร ประโยคไหนตัวหนา ถ้อยตอนใดตัวเอียง ฯ
โดยเครื่องมือสำคัญประจำตัวที่ต้องมีก็คือ "พจนานุกรมต่างๆ" และอาวุธในการทำงานก็คือ "สมาธิ"

จากบทความคราวก่อนหัวข้อ ค่าจ้างงานพิสูจน์อักษร Freelance 1 นั้น...
ได้พอเกริ่นๆ ลักษณะการทำงานของ พิสูจน์อักษร ฟรีแลนซ์ หรือ พาร์ทไทม์ ไปบางส่วน
ย้อนความคราวก่อน...โดยหลักๆ ของงานปรู๊ฟหนังสือจะมีอยู่ 2 แบบ คือ
หนึ่ง ปรู๊ฟจากกระดาษหรืออาร์ตเวิร์กที่ปริ๊นมา
สอง ปรู๊ฟจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ PC หรือโน้ตบุ๊ค



...
ในฐานะ "ผู้รับจ้าง" ที่แสนน่ารักและว่าง่ายก็ต้องสามารถรับงานได้ให้หลากหลายแนวด้วย
ไม่ว่าจะเป็นแนวโรมานซ์ กำลังภายใน รักหวานแหวว แฟนตาซี วิชาการ ฮาวทู หรือศาสนา ฯ
เพราะ "ผู้ว่าจ้าง" ทั้งบริษัท สำนักพิมพ์ หรือในนามส่วนตัว อาจต้องการผลิตหนังสือให้หลากแนว
ที่สำคัญถ้าเรามีความรู้ ความเข้าใจ หรือสนใจงานเขียนต่างๆ ก็ย่อมมีความได้เปรียบเป็นต่อคนอื่นๆ
ยิ่งมีต้นทุนประสบการณ์ ความชำนาญ คลังคำในสมอง ความละเอียดถี่ถ้วน และเข้าใจงานมากเท่าไร 
ก็ยิ่งปรู๊ฟได้ไว เสร็จตามกำหนด ส่งงานตรงเวลา และช่วยให้หลายฝ่ายทำงานได้ง่ายขึ้นมากเท่านั้น
ทั้งทำให้เรามีโอกาสที่จะได้งานเพิ่มด้วย แถมเรายังได้อ่านงานเขียนหลายแขนงขึ้นอีก

ขนาดหนังสือโดยทั่วไปที่ตีพิมพ์วางแผงกันนั้น จะมีขนาดดังนี้
- 16 หน้ายกธรรมดา ขนาด  13 x 18.5 cm
- 16 หน้ายกพิเศษ   ขนาด 14.5 X 21 cm
- 8 หน้ายกธรรมดา ขนาด 18.5 X 26 cm  
- 8 หน้ายกพิเศษ ขนาด 21 X 29.2 cm
แต่ยังมีอีกหลายขนาด เช่น 20 หน้ายก, 24 หน้ายก และ 32 หน้ายก
ซึ่งที่นิยมพิมพ์กันมากก็คือ พ็อกเก็ตบุ๊ค ขนาด 16 หน้ายกพิเศษ นี่เอง

แล้ว "ราคา" หรือค่าเหนื่อย "ค่าจ้าง" สำหรับอาชีพ พิสูจน์อักษรอิสระ คิดกันยังไงล่ะ--?
ติ๊กต่อกๆ...ใคร่ขอแบ่งเป็น 3 ประเภทละกัน น่าจะประมาณนี้ :
1. คิดราคาแบบเหมาเป็นเล่มๆ ไป
2. คิดราคาเป็นหน้าๆ
3. คิดราคาเป็นยก (ส่วนใหญ่จะให้ค่าเหนื่อยในการปรู๊ฟเป็นยก)

ทีนี้ ลองมาลงรายละเอียดอย่างกว้างๆ คร่าวๆ กัน
1. คิดราคาแบบเหมาเป็นเล่มๆ ไป 
งานปรู๊ฟหนังสือแบบรวมเหมาเป็นเล่มๆ นี้ ผมไม่ค่อยเจอน่ะ ทว่าเคยรับงานมาชิ้นหนึ่งแนววิชาการ
แต่ก็เคยมีบางสำนักพิมพ์ได้เสนอราคาเหมาๆ มาให้ (โคตรถูก...ไว้จะบอกในตอนหน้า) 
การคิดเหมานั้นต้องดูความยากง่ายและความหนาของเนื้อหาหนังสือด้วย รวมทั้งงานเร่งเสร็จหรือไม่
ผู้ว่าจ้างมีกำหนดเวลาให้ปรู๊ฟงานเท่าไหร่ ต้องการให้ตรวจกี่รอบ เราต้องไปรับและส่งงานเองไหม
โดยเรื่องราคาแบบเหมาก็อยู่ที่ทั้งสองฝ่ายต้องตกลงกันเอาเอง หากพอใจกันและกันก็รับทำไปโลด...
ซึ่งไม่แน่ว่าการรับงานพิสูจน์แบบเหมาเป็นเล่มอาจได้ค่าตอบแทนที่ดีกว่าแบบเป็นหน้าหรือยกก็ได้

2. คิดราคาเป็นหน้าๆ
บางแห่งก็มีมาตรฐานกำหนดราคาคิดให้เป็นหน้า ซึ่งคำว่า "หน้า" นั้นหมายถึงหน้าที่จัดรูปเล่มแล้ว
โดยขนาดกี่หน้ายกก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็น 16 หน้ายกพิเศษ หรือ 8 หน้ายกธรรมดา หรืออื่นๆ
ต้องตกลงราคากันให้ดีให้เข้าใจก่อนรับงาน เพราะค่าเพ่งจะคุ้มกับการถ่างตานั่งอ่านๆ ตรวจๆ หรือไม่
นึกภาพง่ายๆ... 16 หน้ายกก็คือพ็อกเก็ตบุ๊ค ส่วน 8 หน้ายกก็ไซส์นิตยสาร
Size หรือขนาดที่ต่างกัน ปริมาณตัวอักษรก็ย่อมต่างกันด้วย รวมถึงฟอนต์ที่ใช้อีก
แต่ถ้าเจองานที่มีรูปภาพประกอบเยอะๆ ตัวหนังสือน้อยๆ ก็ดีไป อ่านสบายๆ แป๊บๆ หมดหน้าแล้ว
สนนราคาค่าจ้างน่าจะตกอยู่ที่ หน้า ละ 10 - 30 บาท (ราคากว้างๆ กลมๆ นะ)
และแน่นอนว่า...ต้องเป็นหน้าที่จัดอาร์ตเวิร์กเสร็จสรรพพร้อม proof แล้วโดยแท้
ฉะนั้น การคิดราคาเป็นหน้าๆ นี้ไม่ยุ่งยากเลย หนังสือเล่มนั้นมีกี่หน้าก็เอาราคาคูณเข้าไป
เช่น หนังสือเรื่อง ค่าจ้างงานพิสูจน์อักษร จัดอาร์ตมาได้ 160 หน้า ผู้ว่าจ้างให้หน้าละ 20 บาท
ก็เอา 160 x 20 แล้วจะเป็นจำนวนเงินที่จะได้รับเหนาะๆ

3. คิดราคาเป็นยก 
ส่วนมากและส่วนใหญ่แล้วจะให้ค่าตอบแทนในการพิสูจน์อักษรเป็นยกๆ ไป
ต้องมาทำความเข้าใจเรื่อง "ยก" กันนิด อย่างเช่น
- 16 หน้ายกพิเศษ ก็หมายถึงว่า 1 ยก มี 16 หน้า
-  8 หน้ายกพิเศษ ก็หมายถึงว่า 1 ยก มี 8 หน้า
สมมติหนังสือเล่มหนึ่งขนาด 16 หน้ายกพิเศษ จัดหน้าแล้วได้ 160 หน้า ก็เท่ากับ "10 ยก" นั่นเอง
สนนราคาค่าปรู๊ฟน่าจะตกอยู่ที่ ยก ละ 100 - 500 บาท (ราคากว้างๆ กลมๆ นะ)
เช่น หนังสือเรื่อง ค่าจ้างงานพิสูจน์อักษร จัดอาร์ตมาได้ 10 ยก (160 หน้า) ผู้ว่าจ้างให้ยกละ 200 บาท
ก็เอา 10 x 200 แล้วจะเป็นจำนวนเงินที่จะได้รับเห็นๆ

อีกประเด็นที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ งานแต่ละเล่มจะให้ ปรู๊ฟกี่รอบ!!! 
บางที่อาจแค่สองปรู๊ฟ บางแห่งก็สามปรู๊ฟ และอาจมีบางเจ้าขอปรู๊ฟ word 1 รอบ + artwork 2-3 รอบ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า...ยิ่งปรู๊ฟมากรอบเท่าไร ความผิดพลาดก็ย่อมลดน้อยลงเท่านั้น
อ่านหลายเที่ยว พิสูจน์อักษรหลายรอบ ทำให้สามารถเก็บตกและเห็นรายละเอียดได้มากขึ้น
แล้วก็ทำให้หนังสือเล่มนั้นๆ ผลิตเป็นรูปเล่มออกมาได้อย่างสมบูรณ์ถูกต้องที่สุด
ทำงานให้เสร็จๆ ไปนั้นไม่ยากหรอก ทว่าจะทำเช่นไรให้งานนั้นเสร็จและออกมาดีที่สุดด้วยนี่แหละ
ไม่ใช่ที่โน่นที่นั่นส่งงานมาให้ปรู๊ฟพร้อมๆ กันสามสี่ที่ก็รับไว้ทั้งหมด เพราะอยากได้เงินมากๆ
ขณะทุกที่ก็เร่งงานและมีกำหนดเวลาเสร็จใกล้เคียงกัน แถมเจอหนังสือเนื้อหายากๆ หนาๆ 
คงได้อ่านกันตาถลน อดตาหลับขับตานอน สมองเบลอ กระทั่งปรู๊ฟพลาด ปรู๊ฟหลุด...
ฉะนั้น ต้องคุยกับผู้ว่าจ้างให้ดี จัดสรรงานให้เหมาะ เรียงลำดับงานที่เร่งน้อย หรือเร่งมากที่สุดไว้ด้วย

หวังว่าบทความเรื่องนี้คงพอเป็นแนวทางเบื้องต้นสำหรับผู้ที่สนใจอยากทำงานอิสระด้านหนังสือได้บ้าง
ซึ่งการที่เราอยากกำหนด "ราคาค่าพิสูจน์อักษร" ด้วยมาตรฐาน ISO ของตัวเองนั้น...คงยาก
หากเราตั้งราคาปรู๊ฟไว้สูงลิบ โดยขอคิดเรทหน้าละ 50 บาท หรือยกละ 600 บาท แบบนี้
ทว่าทางผู้ว่าจ้างให้ได้แค่หน้าละ 20 บาท หรือยกละ 200 บาท เจอเช่นนี้เราจะรับงานไหมล่ะ?

ไว้บทความคราวหน้าค่อยมา เล่าไปเรื่อยเปื่อย กันต่อ...แบบไตรภาค

เชิญอ่านตอนสุดท้าย >> ค่าจ้างงานพิสูจน์อักษร Freelance จบ

.