14 พฤศจิกายน 2555

ชีวิตที่ไม่ได้กินเงินเดือน

หลังๆ มานี้ ผมชักไม่ค่อยมีเวลา (อารมณ์) ได้เข้ามาอัพเดทบล็อกสักเท่าไหร่
ด้วยช่วงนี้มีงานฟรีแลนซ์เข้ามาติดๆ จึงต้องทุ่มเทสรรพกำลังและมันสมองเพื่อทำงานให้เต็มที่
อย่างว่าน่ะ...ชีวิตที่ไม่ได้กินเงินเดือน ไม่ได้ตอกบัตร และไม่ได้เข้าออฟฟิศนั้น
แม้นจะอิสระเรื่องเวลาและไม่ต้องเดินทาง ทว่าเรื่องรายได้ก็ไม่แน่นอน
บางช่วงงานฟรีแลนซ์ก็ไม่มีเข้ามา ไม่มีใครว่าจ้าง ก็ต้องกระเหม็ดกระแหม่เพื่อให้อยู่รอดถึงสิ้นเดือน


ขณะที่บางช่วงงานฟรีแลนซ์อาจพาเหรดเข้ามาพร้อมกัน 
แต่จะให้รับงานทั้งหมดก็ไม่ไหว...บางงานก็เร่งซะเหลือเกิน
แม้นรู้ทั้งรู้ว่างานมากย่อมหมายถึงเงินที่จะได้มากขึ้นไปด้วย 
ทว่าครั้นจะโลภมากตกปากรับงานยามที่มาพร้อมกันนั้น
ก็ต้องขบคิด ประเมิน และไตร่ตรองว่าจะรับทำดีหรือไม่เช่นกัน--


เหตุผลที่ไม่อยากรับทำงานฟรีแลนซ์ ไม่ว่าจะ บรรณาธิการอิสระ หรือ พิสูจน์อักษร พร้อมๆ กัน
ด้วยเกรงว่าจะทำไม่ได้ดี ไม่มีคุณภาพ ทั้งเกิดความผิดพลาดเสียหายต่อผู้ว่าจ้างและผู้เสพอ่าน
เงินน่ะ...อยากได้ ทว่าการทำงานเกี่ยวกับหนังสือนั้น บางทีปัจจัยเรื่องเงินก็หาใช่คำตอบแห่งความสุขใจไม่
ความสุขและความพอใจสำหรับผมนั้น คือการได้อ่านงานเขียนของบางคน ได้จับผิดตัวอักษร
ได้จินตนาการไปกับเนื้อหา ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก และได้มีส่วนร่วมสร้างสรรค์หนังสือสักเล่ม...

มันไม่ใช่อุดมการณ์อะไรเลย แต่นั่นคือความสุขและความสงบนิ่งทางจิตใจมากกว่า
การทำงานหนังสือถ้าเอาเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจเป็นตัวตั้งมากเกินไป
หรืออยากได้งานฟรีแลนซ์มากๆ เพื่อจำนวนเงินที่จะมากขึ้นๆ โดยเน้นปริมาณเข้าว่า
แล้วคุณภาพหนังสือเล่มนั้นๆ จะสมบูรณ์แบบหรือไม่ และจะมีคุณค่ากับผู้อ่านเพียงไร
ผมเชื่อว่าการทำงานใดๆ ก็แล้วแต่ต้องก่อเกิดจากความรัก ความสนุก หรือความอิ่มเอิบใจ
ยิ่งงานเกี่ยวกับหนังสือ เมื่อผลิตเป็นรูปเล่มออกไปแล้ววางจำหน่ายบนแผงหนังสือ
หรือแจกจ่าย หรือมีใครได้จับต้องซื้ออ่าน แล้วกล่าวขวัญ ชื่นชม และรู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
ผมว่า...มันเป็นอะไรที่ทั้งสำนักพิมพ์ นักเขียน หรือแม้กระทั่งผู้อยู่เบื้องหลังหนังสือเล่มนั้นๆ ทุกคน
น่าจะรู้สึกยินดีปรีดา แย้มยิ้ม มีกำลังใจ และที่สุดก็คือความสุขใจที่ยากประเมินค่าได้...

กระนั้น "ชีวิตที่ไม่ได้กินเงินเดือน" ชีวิตนี้ก็ยังต้องดิ้นรนและอดทนต่อไป...
มาตรแม้นว่าแต่ละเดือนจะชักหน้าไม่ถึงหลัง บางเดือนแทบไม่พอใช้จ่าย
บางเดือนต้องยอมรับสภาพ ในขณะที่บางเดือนหมิ่นเหม่แทบจะไม่มีเงินซื้อข้าวกินก็ตาม
หลายๆ ครั้ง ผมมักตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า..."เรากำลังคิดและทำอะไรอยู่?"
"เราเลือกทางเดินแบบนี้ทำไม?" หรือ "เมื่อไหร่จะมีใครเห็นสิ่งที่เราทำบ้าง?"
ซึ่งผมก็ไม่ได้หวังหาคำตอบแต่อย่างใด...เพราะได้ตัดสินใจเลือกวิถีชีวิตแบบนี้ไปแล้วนั่นเอง

ในค่ำคืนที่หลายๆ คนหลับใหลฝันหวาน ก็ย่อมมีใครบางคนยังนั่งทำงานคร่ำเคร่งอยู่
ในเช้าตรู่ที่หลากชีวิตต้องตื่นเพื่อเร่งรีบไปทำงาน ก็อาจมีบางชีวิตนอนอุตุอยู่บนเตียงอย่างเดียวดาย

แน่แท้ว่า...หนึ่งชีวิตที่เลือกทำงานอิสระและนอนไม่เป็นเวล่ำเวลานั้น ย่อมมี "ผม" อยู่ด้วย...

.