17 พฤศจิกายน 2555

ความรักโบยบินไปไหนแล้ว

นึกๆ แปลกใจตัวเองอยู่คร้ามครันว่า...
ไฉนไม่คิดจะเขียนจารเรื่องความรักทำนองหนุ่มสาวสักหน่อยหรือไร
ลึกๆ ก็เคยตั้งเจตจำนงอยากจะพรั่งพรูระบายป้ายแต้มเรื่องความรักออกมาบ้าง
เพียงแต่บางทีมันก็มึนๆ อึนๆ ตื้อๆ และไม่รู้จะเริ่มต้นเช่นไร หรือเกริ่นนำยังไง
หรือว่าหัวใจเราด้านชา และชีวิตก็หยาบกร้านเกินจะเอื้อนเอ่ยถึง "ความรัก"

รักครั้งแรกก่อเกิดเมื่ออายุเท่าไหร่นะ...แล้วรักครั้งสุดท้ายจบสิ้นลงเมื่อใด...

หรือว่า "ความรัก" ไม่มีวันเรียนรู้จบสิ้น ยิ่งเรียนยิ่งรู้ หรือยิ่งค้นหายิ่งห่างหายหว่า
ว่ากันว่าคนมีความรักมักมองโลกสวยสดใส เป็นสีชมพู และทำให้ยิ้มบ่อย
เสมือนมีสวนดอกไม้บานสะพรั่งในหัวใจมิปาน ทำให้ชีวิตมีชีวาและร่าเริงระริกระรี่
บ้างก็ว่าความรักทำให้ตาบอด หัวใจเผลอไผลไหววูบ ล่องลอยแล้วก็เคลิบเคลิ้มลืมตัว
ทว่ามีใครจะปฏิเสธและหันหลังให้ความรักได้บ้าง โดยเฉพาะความรักในเพศตรงข้าม...


"ความรัก" ในวัยและวันของชีวิตคนคนหนึ่งคงไม่เหมือนกัน ไม่มีทฤษฎีสำเร็จรูปตายตัว
อีกทั้งนิยามความรักของแต่ละคนก็คงคิดเห็นไม่เหมือนกัน ด้วยไม่ใช่สูตรทางคณิตศาสตร์

"ความรัก" นั้นเป็นสิ่งที่ดี งดงาม อ่อนหวาน ทั้งเกินกว่าจะตีความและตีค่าได้
ในขณะเดียวกัน ความรักก็อาจสร้างสรรค์และทำร้ายใครบางคนได้เช่นกัน
ทว่ามนุษย์ไม่เคยหยุดที่จะรัก มอบความรัก ให้ความรัก และเสาะแสวงหาความรักอยู่ร่ำไป...

"ความรัก" อาจมิทำให้อิ่มท้อง ทว่าก็ทำให้อิ่มใจนัก
บางคนอกหัก พ่ายรัก ก็ถึงขนาดกินข้าวปลาไม่ลง โลกเป็นสีเศร้าเกินกว่าลิ้นจะรับรสความอร่อยได้
ในขณะที่คนสมหวังในรัก แฮปปี้ในชีวิตคู่ เสพสมกามารมณ์ถึงจุดสุดยอด ก็ลิงโลดหรรษาอิ่มสุข
กระนั้น...คนส่วนมากก็พร้อมใจยินยอมที่จะกระโจนเข้าสู่ความรัก ปรารถนามีใครสักคนข้างกายเสมอ

ณ ตอนนี้ ผมมิอาจอหังการ์เพื่อนิยามหรือกล่าวถึง "ความรัก" แต่อย่างใด
เพราะผมก็ล้มเหลว ผิดพลาด และหัวใจพรุนผุกระทั่งหยาบกระด้างโดยไม่รู้ตัว
ความรักโบยบินไปไหนแล้ว... นั่นสิ หากว่ายังโบยบินเหินพลิ้วก็ยังพออุ่นใจได้บ้าง
กลัวแต่ว่าความรักจะโดนเด็ดปีกแล้วแดดิ้นกระเด่าๆ แทบวายชีวานี่แหละ

กระนั้น ผมก็เห็นดีเห็นงามถ้าจะรู้สึก "รัก" ใครสักคน
อย่างน้อยๆ การมีความรักให้กันนั้น ที่สุดก็ย่อมดีกว่ามีความเกลียดชังใส่กันและกัน

คิดถึงหญิงสาวคนหนึ่ง...
อยากบอกว่า "คิดถึง" เสมอ
ไม่รู้เพราะอะไรใจคิดถึงเพียงเธอ
อยากเจอะเจอเธออีกครั้ง...เฝ้าแต่คอย

ยามเธอไกลห่าง ฉันก็อ้างว้างเหว่ว้า
ลึกๆ แสนห่วงหา ชีวาเศร้าสร้อย
หัวใจฉันหม่นหมองและล่องลอย
อยากโอบเธอในอ้อมกอดน้อยๆ ให้นานๆ

ไม่รู้ว่าทำไม...ฉันไม่รู้
รู้แต่ตอนนี้ใจฉันหดหู่แทบฟุ้งซ่าน
เธออยู่ไหนกันหนอ ใจฉันทรมาน
อยากพบพานเธออีกครา...คนน่ารัก

หากเธอได้มาอ่านกระทู้นี้...
ฉันยังคอยอยู่ที่ที่เธอก็รู้จัก
วันใดเธอเหนื่อยล้าก็มาผ่อนพัก
คืนใดเธอเหน็บหนาวนักก็มานะ...


นับจากวันนั้นจวบวันนี้...
เข็มนาทีชีวิตฉันเหลือสั้นล่ะ
ค่อยๆ หมุนไปอย่างช้าๆ ใกล้วาระ
เหมือนนาฬิกาหมดพันธะโดนโละทิ้ง

หากว่าเธอได้มาอ่านที่ฉันเขียน
โปรดรู้ว่าใจฉันไม่เคยเปลี่ยนเลยสักสิ่ง
คิดถึงเธอมากเพียงไรล้วนใช่ความจริง
ยื่นมือมาสิ, ฉันจะกุมนิ่งๆ ด้วยหัวใจ

หากฉันทำพลาดผิด คิดมิร้ายกับเธอ
ฉันก็ขอโทษนะเออ...เธออย่าร้องไห้
เช็ดน้ำตาแล้วยิ้มซะบ้าง ช่างโลกมันปะไร
ปล่อยให้โลกหมุนไปตามที่ควรเป็น

ฉันแอบคิดถึงเธอในความฝัน
ขณะที่ในบางวันก็ฝันเห็น
เธอควงคู่ไปกับชายอื่น - ฉันสะอื้นน้ำตากระเซ็น
กระทั่งมิอาจซ่อนเร้นความอ่อนแอ

ช่างเถอะ...ถ้าเธอมีความสุขกับเขา
คำว่า "เรา" ก็ถึงคราวจบร้าวแน่
ขอให้เธอเจอคนที่ดีจริงแท้
คนที่พร้อมจะดูแลเทคแคร์เธอ

ฉันลาก่อนนะ...หญิงสาว
หากวันหน้า, เธอเหน็บหนาวหรือหมองเหม่อ
ก็ยังมีฉันอยู่ตรงนี้ ที่ที่เราเคยเจอ
เพราะมิตรภาพมีให้เสมอ...มิเปลี่ยนแปลง--


><