6 ตุลาคม 2555

Sleep หลับใหลหลบเร้น

จากเล่าไปเรื่อยเปื่อยเริ่มอยากจะนอนไปเรื่อยๆ โดยไม่อยากตื่นขึ้นมาดูโลก
นอนซมซานซึมเซาแบบผู้ป่วยไข้ที่ยากจะเยียวยารักษาให้หายขาด
บางทีชีวิตก็แสนน่าเบื่อยิ่งนัก แถมยังดูไร้ค่าไร้ราคาในค่าความเป็นคนอีก
หรือว่าหัวใจนั้นสูญสิ้นความหวังและความฝันใดๆ ไปแล้ว...

เช้าวันเสาร์นี้...
ผมไม่อยากลุกลากสังขารลงจากเตียงเลย มันหมดพลังงานชีวิต
อยากนอนอุตุหรือครุ่นคิดปัญหานานัปการที่ดูเหมือนไร้หนทางออก
ว่าตามจริงก็อยากนอนนิทราหลับยาวๆ แล้วลืมเรื่องราวที่ผ่านมาให้หมดสิ้น
หลับใหลหลบเร้นอยู่ในดินแดนไกลโพ้นที่ไร้เทคโนโลยีและวัตถุศิวิไลซ์

ผมหวนนึกถึงบทเพลง "ฉันฝันว่าฉันตาย" ของ ชูเกียรติ ฉาไธสง ขึ้นมาอีกครั้ง...


"ฝันฉันล่องลอย ใจลอยไกล ไปถึงดวงดาว
ฉันผ่านความร้อนหนาว ผ่านความปวดร้าว กลางฟ้าแสนเปลี่ยว
ไกลสุดแสนไกล ไปเพียงผู้เดียว ใจเอ๋ยใจ ฉันนั้นแสนเหงา
ฉันตั้งคำถาม โลกที่แสนงามมีเพื่อสิ่งใด
คนเกิดมาต้องตาย รอวันสุดท้าย ชีวิตว่างเปล่า
เป็นเศษธุลี ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ชีวิตไร้ความหมาย
ฉันต้องเดินทางที่เคว้งคว้างเพียงเดียวดาย
ฝันเห็นคนดี ที่สาบสูญไปมากมาย
สีของโลก ร้อนแรง เสียดแทงจนแหนงหน่าย
บทลำนำ แห่งความตาย เริ่มครอบงำ
ฉันฝันว่าฉันตาย เลือดแดงหลั่งราย ตายบนดวงดาว
หุ้มห่อด้วยหมอกขาว อาบน้ำค้างพราว กลางฟ้าหนาวเย็น
โลกพันธนาการ มีคนมองเห็น ฉันแพ้พ่าย ความหมายที่ต้องเป็น..."


***
เสียงนกดังแว่วไหวมาจากระเบียงหลังห้อง แสงตะวันสาดฉายคล้ายเต้นระบำปลุกเร้า
ผมยังคงนอนเอามือก่ายหน้าผากเพื่อคิดวิธีหาเงินมาจ่ายค่าไฟกับค่าเน็ต
พลันคิดถึงแม่ขึ้นมาจับจิต นึกถึงใบหน้าแม่ที่แก่ชรามากขึ้นไปตามเดือนปี...

เมื่อต้นเดือนนี้ ผมโทรศัพท์ไปหาแม่พร้อมกับเอ่ยปากยืมเงินท่านมาจำนวนหนึ่ง
เพื่อเอามาชำระค่าผ่อนคอนโด ค่าส่วนกลาง ค่าน้ำ และค่าผ่อนโน้ตบุ๊ก...
ทว่าก็ยังไม่พอจ่ายค่าไฟกับค่าเน็ต นี่ยังมิต้องกล่าวถึงค่ากินอยู่ในเมืองหลวงอีก
นี่ผมรอนแรมไกลจากบ้านมาอยู่ในมหานครเพื่อดิ้นรนค้นหาอะไรล่ะนี่--
ยิ่งคิดก็ให้ยิ่งอยากหลับใหลนิ่งสนิท...ผ่อนลมหายใจทีละนิดอย่างเหนื่อยล้า...นิทรานิรันดร์

เที่ยงกว่าๆ เสียงเด็กๆ วิ่งหยอกล้อเล่นกันดังผสานมาจากระเบียงหลังห้อง
แสงตะวันหรุบหรู่เสมือนจะหลีกทางให้เมฆครึ้มฝนได้สำแดงบทบาทบ้าง
ผมยังอยากนอนต่อ...หมดเรี่ยวแรงคิดอ่านหรือจะทำอะไร ไม่อยากตื่นมารับรู้ความจริง
ข้าวสารหมด เงินหมด ไข่ไก่หมด กาแฟหมด เหลือแต่มาม่าสองซองกับปลากระป๋องอีกหนึ่ง
วันนี้...รอดตายไปได้อีกหนึ่งวัน กระนั้นก็ไม่มีกะจิตกะใจอยากกิน รอให้หิวสุดๆ ก่อน

ผมนอนมือก่ายหน้าผากพลันหลับตาต่อ...