13 ธันวาคม 2555

Proof Reader งานแห่งสมาธิ

กาลเวลาผ่านไปใกล้เจ็ดเดือนแล้วสำหรับบล็อกเล็กๆ แห่งนี้
กับบทความราวๆ ๔๐ กว่าๆ ที่พร่ำพิมพ์ไปเรื่อยเปื่อยแบบไร้รูปแบบ
โดยเขียนบทความตกเฉลี่ยเดือนละ ๖ ชิ้น ทั้งมีแนวโน้มอนาคตว่าอาจจะลดลงซะอีก

ต้นสัปดาห์นี้...มีงาน Proof Reader จากสำนักพิมพ์หนึ่งส่งมาให้รับใช้สามเล่มรวด
นับเป็นความอนุเคราะห์และไว้วางใจในความสามารถที่สุดจะกล่าวด้วยความรู้สึกใดๆ
จริงๆ หนังสือทั้งสามเล่มนี้เป็นคนไทยเขียน แล้วก็มีชื่อภาษาไทย
แต่ด้วยยังคงเป็นต้นฉบับกรุ่นๆ ผมจึงขอนำมาบอกเล่าด้วยชื่อภาคภาษาอังกฤษพลางๆ ก่อน
- Start to be Rich
- Easy Guide : Professional Outsource
- Good Stories Make Positive Mind



ผมเคยเขียนเรื่องพิสูจน์อักษรในบล็อกนี้มาแล้ว ในหัวข้อ >> Proofreader
ซึ่งก็นับเป็นงานที่ผมถนัดเช่นกัน นอกเหนือจากงาน "บรรณาธิการ" ที่รัก
ทั้งก็ยังมีงานปรู๊ฟนิยายไทยแนวโรมานซ์ประจำจากอีกที่หนึ่งอีก
บางช่วงก็อาจมีงานทั่วๆ ไปจากที่อื่นแทรกมาบ้าง ซึ่งก็พอมีรายได้ถูไถไปตามสภาพ
ทว่าก็ต้องกินอยู่อย่างพอเพียง พยายามหุงข้าวและทำกับข้าวกินเองแบบง่ายๆ
เลิกหลงใหลสิ่งฟุ้งเฟ้อ ยั่วยวนกิเลส และไม่เห่อตามสังคมวัตถุนิยมที่พัฒนาแบบบ้าคลั่ง
พวกไอโฟน ไอแพด ไอพอด ก็แค่ปล่อยวาง ด้วยไม่มีปัญญาและปัจจัยจะจับจองครอบครอง
แค่ใช้โน้ตบุ๊ครุ่นเก่าๆ ต่อเน็ตได้เพื่อทำงานก็แสนจะสุขใจนักหนาแล้ว...

Proof Reader งานแห่งสมาธิ ว่าตามจริงก็ต้องเป็นงานของผู้รักการอ่าน ชอบจับผิด ลุ่มลึก
ชอบค้นคว้าหาเรื่องที่สงสัย ต้องใจเย็น นิ่งสงบ ทั้งพร้อมเปิดใจรับฟังความคิดเห็นผู้อื่นที่เกี่ยวข้องกับงานนั้นๆ
ที่สำคัญก็คือ ต้องรับงานได้ทุกแนวทุกสไตล์ เพราะหน้าที่หลักคือการพิสูจน์อักษรเพื่อหาคำผิด
ทว่าเมื่ออ่านแล้วพบว่าเนื้อหาขัดแย้ง สรรพนามผิดเพี้ยน ความหมายไม่ใช่ หรือเห็นต่างอันใด
ก็ควรคอมเม้นต์ไว้ หรือพูดคุยปรึกษากับนักเขียน บรรณาธิการ และทีมงานเช่นกัน
ด้วยหน้าที่ของ "Proof Reader" นั้น มีศักดิ์ มีศรี มีเกียรติ มีความสำคัญยิ่ง
ทั้งยังเป็นกลไกฟันเฟืองหนึ่งที่จะช่วยทำให้หนังสือเล่มนั้นๆ เกิดความสมบูรณ์และถูกต้องมากที่สุด
"จงทำงานด้วยใจรัก สนุก และมีความสุขกับงาน" จะได้รู้สึกเอิบอาบยินดียามหนังสือออกมาเป็นเล่มบนแผง

เวลาปรู๊ฟงานนั้น สมาธิคืออาวุธในการอ่าน ต้องเข้าใจและซึมซาบไปกับเนื้อเรื่องอย่างถ่องแท้
อาชีพ "ฟรีแลนซ์" ที่รายได้ไม่แน่นอน คงไม่ใช่การเน้นปริมาณงานเพื่อหวังเงินที่มากขึ้น
หากคิดเช่นนั้นก็ย่อมทำให้คุณภาพงานลดลง ด้อยค่า หรือเกิดความผิดพลาดได้ง่าย
แม้นผมจะเต็มใจรับงานปรู๊ฟมาสามเล่ม แต่ก็ต้องถามกำหนดการเสร็จงานของแต่ละเล่มด้วย
เพื่อจะได้วางแผน ประเมิน และจัดสรรเวลาทำงานได้ถูก เล่มไหนรีบ เล่มไหนไม่เร่ง
ไม่ใช่ตะบี้ตะบันรับงานมามากๆ (เอาหมด) เพื่อต้องการเงินเยอะๆ ทว่าให้เวลาทำงานไม่กี่วัน
แบบนี้จะหวังคุณภาพได้อย่างไร จะผลาญใช้สมาธิหรือสมองเยี่ยงเครื่องจักรก็คงไม่ไหวกระมัง
เราเป็นมนุษย์มิใช่หุ่นยนต์ที่ถูกโปรแกรม เรามีอารมณ์ ความรู้สึก แล้วก็จิตใจนี่นา...

โมงยามที่ผมไม่มีสมาธิ ไร้อารมณ์จะทำงาน สมองมึนเบลอ ก็ปลีกวิเวกหาเวลาพักผ่อนสักเล็กน้อย
อาจออกไปเดินเล่น หาหนังดู พูดคุยกับคนโน้นคนนี้ หรือพรวดมาเขียนบล็อกบ้าง
พยายามหาเวลารีแล็กซ์ ผ่อนคลาย ปลดปล่อย เพื่อสะสมตระเตรียมพลังไว้ทำงานต่อไป...

ทุกวันนี้...ผมภูมิใจและรักในอาชีพ "พิสูจน์อักษรฟรีแลนซ์" กับ "บรรณาธิการอิสระ" มากนะ
แม้นว่าที่สุดจะทำให้ชีวิตแค่พออยู่พอกินก็ตาม อาจดูไม่โก้เก๋หรือเท่ระเบิดเหมือนอาชีพอื่นๆ
อย่างน้อยๆ ก็เป็นอาชีพที่สุจริตและยังความสุขใจให้เสมอแหละ

ไว้คราวหน้า...ผมจะบอกเล่าเล็กๆ เกี่ยวกับราคาหรือค่าจ้างของอาชีพ "พิสูจน์อักษรฟรีแลนซ์"
ว่าคิดค่าตอบแทนกันยังไง? ให้เท่าไหร่? ทว่าที่สุดก็ไม่มีความแน่นอนของราคาค่าปรู๊ฟหรอกนะ
ยิ่งถ้าจะหาความมั่นคงหรือรายได้ทางอาชีพนี้แบบสม่ำเสมอและมั่นคงแล้ว
คงต้องหางานฟรีแลนซ์จากบริษัท หรือสำนักพิมพ์ หรือที่อื่นๆ ที่ป้อนงานให้ประจำและแน่นอนทุกเดือน
กระนั้น...ก็ไม่ง่ายดังฝัน ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างที่มิอาจควบคุมได้นั่นเอง

บางเวลา...ผมยังท้อๆ และให้หวนอยากไปทำงานประจำเลย
ทว่าเมื่อเลือกทางสายนี้แล้ว ที่สุดก็ต้องเดินต่อไป...ต่อไป...และต่อไป...