14 กันยายน 2555

Await เฝ้ารอแล้วก็ว่างเปล่า

Open Life เล่าไปเรื่อยเปื่อย...
เริ่มออกอาการอิดออดแอดเอื่อยและอืดอาดอ้อแอ้ตามอารมณ์เฉพาะตัวอีกแล้ว
แบบว่าต้องบิ้วบีบคั้นอารมณ์สักเล็กน้อยเพื่อให้ถ้อยคำหลั่งไหล
ซึ่งบางทีก็ตีบตัน มึนตื้อ และไม่มีผลึกให้ตกตะกอนในการร้อยเรียงเรื่องราวออกมา...

ยิ่งช่วงนี้ต้องโบกหน้าด้วยความไร้ยางอายเพื่อเอ่ยปากหยิบยืมเงินพรรคพวกหรือรุ่นพี่บางท่าน
เกรงใจก็เกรง เขินก็เขินแทบม้วนต้วน เพราะลำบากใจทั้งผู้ยืมและผู้ให้ยืม
แต่จะทำไงได้ล่ะ-- ไม่งั้นน้ำไฟอาจโดนตัด ทั้งผ่อนคอนโดล่าช้าก็โดนดอกเบี้ยผิดชำระอีก
โชคยังพอมีเมื่อรุ่นพี่ท่านหนึ่งเห็นใจสงสารให้ยืมห้าพันบาทแบบไม่คิดดอก (สาธุงามๆ ครับ)
เดือนนี้จึงได้หายใจรอดไปอีกระยะ ทั้งมีสาวผู้ใจดีสั่งซื้อหนังสือมือสองร่วมหกร้อยบาท (จ่ายค่าไฟ)
ส่วนเรื่องกินก็ดำรงอยู่ไปตามอัตภาพ อยากอยู่บ้านนอกคอกนาเสียเหลือเกิน
จะได้เก็บผักบุ้ง เด็ดยอดกระถินมาจิ้มน้ำพริกกะปิกิน
หรือทำเบ็ดไม้ตกปลาเรื่อยเปื่อย แต่ผมใจเสาะฆ่าปลาไม่ได้นะ ยังไม่ต้องพูดถึงการขอดเกล็ดปลา



กลับมาเรื่องการงานกันต่อ...
คลิก! อ่านความเดิมจากคราวที่แล้ว
หลังจากอ่อนระทวยไปกับเมล์สองฉบับจากสำนักพิมพ์ที่ตอบปฏิเสธอย่างสุภาพ
หัวใจผมนั้นมันทดท้อและเริ่มหมดหวังแล้ว เทพแห่งความโชคดีคงเหาะเหินห่างจากผม
เฮ้อ...ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะคลิกเปิดอ่านเมล์ฉบับสุดท้าย...
ข้อความตอบกลับ... 

สวัสดีค่ะ คุณ...
คุณ...ไม่อยากทำตำแหน่งแบบประจำหรือคะ ตอนนี้ทางสำนักพิมพ์ต้องการมากๆ คือ

ตำแหน่งกองบก. ซึ่งจะเป็นทั้งกองบก. และบรรณาธิการเล่ม (ไปในตัว) 
อาจหมายรวมถึงต้องตรวจปรู๊พต้นฉบับด้วย (1 ครั้ง) เพราะทางสนพ.เราไม่มีตำแหน่งพิสูจน์อักษรประจำค่ะ 
มีแต่ต้องช่วยกันดูภายใน (อัตราตำแหน่งนี้จึงไม่ได้เปิดรับน่ะค่ะ)
เห็นควรว่าอย่างไรลองพิจารณาดูนะคะ


***

^^ จู่ๆ ดอกไม้ในหัวใจก็เบ่งบาน ในจินตนาการเห็นผีเสื้อโบยบินร่ายรำว่อนตระการ
ผมอ่านเมล์ฉบับนี้ซ้ำไปซ้ำมาขณะสายฝนนอกหน้าต่างโปรยปรายระบำหรรษา
ต้องขอบคุณน้ำใจแสนงามของ สำนักพิมพ์กรีน ปัญญาญาณ ที่เสนอให้ผมร่วมงานด้วย

(ผม "ครอบลิงก์" ของสำนักพิมพ์สองแห่งนี้ให้แล้ว เผื่อท่านใดสนใจหนังสือก็คลิกเข้าไปดูกันได้)

>< จากนั้นก็มีพี่ผู้หญิงฝ่ายบุคคลจาก สำนักพิมพ์สุขภาพใจ โทร.มาหาผม
เพื่อพูดคุยและสอบถาม (คุยกันร่วมชั่วโมง) แล้วก็เสนอให้ผมไปกรอกใบสมัครและคุยรายละเอียดกัน
โดยเป็นงานประจำในส่วนกองบก. หรืออาจให้ผมช่วยดูแลเว็บไซต์ให้
เพราะผมพอมีความรู้งูๆ ปลาๆ กระท่อนกระแท่นเรื่อง SEO บ้าง
(ไว้คราวหน้า จะลองเทียบ SEO แบบพื้นๆ และแปะรูปประกอบของสำนักพิมพ์ต่างๆ กันเล็กน้อย)

ตอนนี้...ผมต้องขอบคุณสำหรับความอารีของสำนักพิมพ์กรีน ปัญญาญาณ และสำนักพิมพ์สุขภาพใจ
ที่เสนองานประจำให้ (นี่ถ้าบริษัทอยู่ใกล้ๆ ที่พักผมก็คงดีเนอะ) มา ณ ที่นี้ด้วย
ซึ่งส่วนตัวแล้วผมอยากได้งานแบบฟรีแลนซ์มากกว่า ทว่าบางทีชีวิตก็อาจเลือกไม่ได้
ผมหวนระลึกถึงประโยคของ ปู่เย็น แก้วมณี เฒ่าทรนง ขึ้นมาทันทีทันใด...

คำสอนปู่เย็น


ตึ๊กต๊อกๆ ผมจะตัดสินใจเช่นไรดี--?
ไม่มีงานก็ไม่มีเงิน ทุกวันนี้แม้นพอมีกินบ้าง ทว่าก็กินแบบเขียมๆ
ไหนจะหนี้ที่ผมเอ่ยปากยืมมา ไหนจะค่าโน่นนี่สิ้นเดือนนี้อีก
คำตอบอยู่ที่ตัวผมล้วนๆ เพราะเรามีอำนาจการตัดสินใจของตัวเองอยู่ในมือ
คำตอบคงจะได้รู้ในอีกไม่ช้า...

.